วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

มิตร กับ ศัตรู อาจอยู่ไม่ไกลกัน

คำว่า "เพื่อน"  มันเกิดจากตรงไหน

คำตอบคือ  น้ำใจที่เรามีให้กันเชื่อมความสัมพันธ์

ทำให้เกิดคำว่า "เพื่อน"

แต่บางคนกลับอาศัยน้ำใจที่เรามอบให้

เป็นคำว่า "เพื่อน"

เข้ามาเพื่อรอเวลาลงดาบ

ให้เรากระอักในเวลาไม่นาน

แต่กลับกันศัตรูบางคนอาจจะมีน้ำใจ

มากกว่าเพื่อนบางคนเสียอีก

เรานับความเป็นเพื่อนกันที่ความสนิทสนม

หรือที่น้ำใสใจจริง 

หากศัตรูได้รู้จักคบหาเรามากกว่าเพื่อน

ศัตรูอาจกลายเป็นมิตรที่ดีกว่าเพื่อน

ที่สับปลับอับจนน้ำใจ

ไม่มีเพื่อนไม่มีศัตรู  มีแต่ผู้รู้ใจและมีน้ำใจ

กับมีผู้คอยทำร้ายและมีผู้ไม่หวังดี

คำว่า "เพื่อน"  หรือ "ศัตรู"

เรียกขานคำนั้นเมื่อตัวตนที่แท้จริงปรากฏ

อารมณ์ดีเพราะมีความสุข

เค้าว่ากันว่า "ตลกวันละนิดจิตแจ่มใส"

เพราะการยิ้มเป็นการบริหารใบหน้า

อารมณ์ดีเป็นการบริหารหัวใจ

การยิ้มการหัวเราะจะทำให้เราสวยขึ้นจริงๆ นะ

ถึงแม้บางครั้งมุขบางมุขของเรามันอาจจะตลกฝืดไปบ้าง

ให้คนอื่นได้ยิ้มเพราะมุขตลกที่มันไม่ตลกของเราบ้างก็ได้

เพราะการหน้าแตกหน้าแตกเป็นเรื่องธรรมชาติ

คนมีอารมณ์ขันจะเป็นคนที่เข้าสังคมได้ง่าย

อารมณ์ขันจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดได้

และสุดท้ายอารมณ์ขันทำให้เราเป็นคนที่หน้าประทับใจ




วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

ปล่อยให้สายลม....พัดผ่านไป

เวลาที่บีบรัดของคนเมือง  
ความดีความงาม  ความจริง  ความลวง 
ไม่มีเวลามากนักสำหรับการขบคิด
ตีความให้ถึงแก่นของ
ความดี  ความงาม ความจริง ความลวง


รายละเอียดอันประณีต  พิถีพิถันนั้นๆ 
อาจกล่าวได้ว่า 
ถ้าเราเอาเป็นเอาตายกับเรื่องไม่รู้จุดจบมากเกินไป
เรื่องราวที่น่าศึกษา
และมีคุณค่า
ก็จะกลายเป็นเรื่องราวที่ไร้สาระในที่สุด


การปล่อยผ่านรายละเอียดปลีกย่อย
ที่ทำให้ว้าวุ่นใจยิ่งขึ้น
อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เราก้าวข้าม
ไปสู่ตัวตนที่แท้จริงของสิ่งนั้นก็เป็นได้

เพราะถ้าหากเราลังเลที่จะก้าวขึ้นบันได 
หยุดยืนโอ้เอ้
ในขณะที่เพื่อร่วมทาง
ทิ้งเราไว้เบื้องหลัง

เราก็คือผู้ยืนอยู่กับที่ 
ไม่ได้ไปไหนสักที 
และไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นสักนิดเลย

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

การออม....เพื่อชีวิตที่มั่งคง

อนาคตของคนเราเป็นสิ่งไม่แน่นอน
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้

ความแน่นนอนมีเพียงวันนี้เท่านั้น

การให้ความสำคัญกับการออม
คือการสร้างความมั่นคงให้อนาคต

พรุ่งนี้อาจถึงคราวเคราะห์ของเรา
เราสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ด้วยวิธีหนึ่ง...
ในหลายร้อยพันประการ

ออมทรัพย์เสียแต่วันนี้  ทีละเล็กทีละน้อย 
สิ่งไม่คาดฝันในวันต่อ ๆ ไป อาจทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลง 
แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน เป็นปีของการออมทรัพย์  
นั่นคือ  การเงินอันมั่นคง 
เงินก้อนที่เราคาดไม่ถึงก็คือรางวัลของการมัธยัสถ์ 
 เราสามารถแบ่งสันปันส่วนเงินจำนวนหนึ่ง 
 ซื้อหาของขวัญให้บุคคลอันเป็นที่รัก 
หรือซื้อหาของขวัญให้กับตัวเอง 
เพื่อเป็นกำลังใจในการเก็บออมครั้งต่อไป



วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ชีวิต...คือ...การเดินทาง

เคยมีคำคมมกล่าวไว้ว่า...
การเดินทางถือเป็นกำไรของชีวิต
 
ซึ่งการเดินทางมีหลายรูปแบบ
ทางรถ ทางเรือ ทางน้ำ ทางอากาศ  หรือว่าทางเท้า
บรรยากาศแปลกใหม่  ทัศนียภาพแปลกตา
ผู้คนและวัฒนธรรม  เชื้อเชิญให้น่าทำความรู้จัก

เราจะได้ทำความเข้าใจโลกและชีวิตมากขึ้น 
นั่นทำให้เราได้เข้าใจตนเองไปด้วยเช่นกัน

แต่มีเส้นทางสายหนึ่งที่
เราก็ควรเดินทางไปสำรวจตรวจสอบ

เราเดินทางได้แม้จะอยู่กับที่  โดยใช้เส้นทาง....

สายความคิด 

พิจารณาความคิด  อารมณ์ ความรู้สึก 
มีทางสายใดบ้างที่ควรซ่อมแซมปรับปรุง

หากพานพบก็ต้องรีบแก้ไข
อย่ารีรอให้เส้นทางสายนั้นขาดวิ่นไปอย่างไม่อาจหวนกลับมาใช้งานได้อีก

เพราะชีวิตง่ายนิดเดียว

ความคิดถือเป็นเจ้าของชีวิต 
ดังจะเห็นได้จากการที่เราจะทำสิ่งใด
เราจะต้องมีความคิดเกิดขึ้นก่อนการกระทำเสมอ
แต่ชีวิตนั้นมันเป็นของเรา 
แต่บางครั้งเรากลับไม่เป็นเจ้าของความคิด
โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์
เพราะเราไม่สามารถควบคุมมัน
ให้อยู่ภายในกรอบที่เราต้องการได้

เรามีความรัก  เรามักจะใส่ใจดูแลความรัก 
ด้วยวิธีสร้างสรรค์........ด้วยวิธีของเรา
ในความคิด........ในชีวิตมีสิ่งดีๆไว้แบ่งปันเสมอ

และมีแต่เราเท่านั้น
ที่จะสร้างสรรค์ความรักให้งดงาม
เพื่อความรัก 
 เพื่อคนที่เรารัก 
เพื่อคนที่อยู่รอบข้าง
และเพื่อตัวเราเอง

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

สิ่งเล็ก ๆ ที่ฉันเรียกมันว่าความรัก

             ความรักยังคงครองโลกโดยมีดรรชนีวัดค่าง่ายๆที่มาจากหนังรัก  เพลงรัก  ละครรัก  นิยายรัก ยังครองอันดับยอดนิยม

             เมื่อความรักครองโลก  แล้วเหตุใดเล่าจึงยังมีการคดโกงเข่นฆ่ากันทุกเมื่อเชื่อวัน  หรือเป็นเพราะว่าความรักอันละเอียดอ่อนนั้น  สัมผัสกันได้ยากเหลือเกิน  หรือเพราะว่าความรู้สึกนึกคิด  ถูกความหยาบกระด้างบดบังเสียมิชิด  และความหลง โลภ  เกลียด  ที่เรามักมองความไว้เนื้อเชื่อใจจนลืมดูเนื้อหาภายใน  และเข้าใจว่าที่กระทำไปก็เพื่อความรัก หรือเราลืมใส่ใจความหมายของความรักที่เรามีอยู่
โปรดรักตัวตนของเราให้มากๆด้วย  รักให้พอเพียงเพื่อจะได้รักผู้อื่น  ยืนดอกไม้จากช่อช่วงแห่งดวงใจ  ให้ความรักได้ประจักษ์แด่โลกของเรา

ความเชื่อ กับการชั่งใจ

              โลกนี้มีเรื่องเหลือเชื่อมากมายในปริมาณมากมายมหาศาลนั้นมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ  เราจะแยกแยะสองขั้วต่างระหว่างจริงลวงได้อย่างไร  เพราะเราคงไม่มีความรอบรู้ในทุกเรื่อง

              ข้อหนึ่งที่น่านำมาประกอบเป็นปัญหาตรงจุดนี้ก็คือเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นมันส่งผลถึงชีวิตเราหรือไม่  อาทิเช่น  ได้พบข่าวคราวดาราคู่รักกำลังจะสานสัมพันธ์กัน  หรือไม่ก็เป็นข่าวคราวการเลิกร้างกัน  เราอาจลังเลสงสัยหากไม่มีข้อมูลเพียงพอ  หรืออาจไม่ได้ใส่ใจไยดีเลย

               แต่ถ้ามีคนมาบอกว่ามีคนนั้นคนนี้กล่าวร้ายคุณ  เรามักจะหลงเชื่อและมีอารมณ์ขุ่นเคืองในเบื้องแรก  ความเชื่อที่มีผลพวงต่อมิตรภาพเช่นนี้ต่างหาก  ที่เรากลับนำมาเป็นผลต่อความรู้สึกในด้านลบ  ความเชื่อหรือไม่เชื่อ  ยังจะนำมาซึ่งความเป็นลบบวกอยู่ร่ำไป  สังเกตได้ว่าความเป็นลบ  มักจะยื่นหน้ามาให้เห็นก่อนเสมอ  ส่วนการวางเฉยมักจะถูกลืมเลือนเหมือนไม่เคยทำได้

เสียงบรรเลงกล่อมหวาน บรรดาลแว่ว

               ไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนบอกว่าตัวเองร้องเพลงไม่เป็น  ทั้งที่เมื่อครั้งแรกที่เริ่มลืมตาดูโลก  เราก็ได้ร้องเพลงออกมาเสียงดังลั่น 

               การร้องเพลงเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่มีศิลปะ   ตอนแรกเกิดหากทารกเข้าใจความหมายของถ้อยคำแล้ว  เด็กน้อยอาจร้องเพลงเป็นภาษาสละสลวยและสื่อสารกับมารดาอย่างเข้าอกเข้าใจ
บทเพลงเป็นศิลปะแห่งเสียงที่ผู้คนยังคงใช้กล่อมเกลาชีวิต  และคงเป็นเช่นนี้ไปอีกนานตราบสิ้นอายุขัยของมนุษย์  การขับร้องเพลงเป็นการนำเรื่องราวภายในออกมาบอกเล่า  เนื่องจากมนุษย์ต้องการที่พักพิงและสิ่งยึดเหนี่ยว

                 บทเพลงเป็นส่วนหนึ่งของทุกศาสนา  ในรูปแบบของบทสวดมนต์  เสียงขับขานที่ต้องการประสานกัน  เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของผองชน  บันไดเสียงพาดขึงระหว่างศรัทธากับศาสนา  ร้องเพลงกันเถอะหากทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย  ปลอดปล่อย - ปลอดโปร่ง

คำตอบที่ไม่ต้องการคำถาม


              เรามักถามถึงอัตราเงินเดือนของคนอื่น  เรามักถามถึงเรื่องราวร้างร้าวฉาวโฉ่ในชีวิตคู่คนอื่น  เรามักอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวที่ผู้อื่นอยากเก็บงำเป็นเรื่องส่วนตัว  ทั้งที่บางครั้งบางคราวเราก็ไม่พึงใจที่จะตอบคำถามเหล่านี้   แต่เราเองกลับจะปฏิบัติต่อผู้อื่น  ทั้งที่เราไม่ต้องการให้ใครมาปฏิบัติกับเราเช่นนั้น

                ตลอดเวลาที่มีคำถามคำตอบ  บางทีการใช้มันไปในเรื่องของการสอดรู้สอดเห็น  เป็นการสร้างความลำบากใจแก่ผู้ตอบคำถามเป็นอย่างยิ่ง  เมื่อเราคิดตั้งคำถามเราก็ควรถามตัวเองด้วยว่าถามไปทำไม  อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคำถามต่างๆหลุดจากปากไป  ผู้ตอบจะเป็นอย่างไรเมื่อได้ยินคำถามที่เสียดแทงความรู้สึก


         ก่อนจะป้อนคำถามให้ผู้อื่น  ก็ควรป้อนคำถามให้กับตัวเองด้วยก็คงจะดี

อยากจะฝากความคิดของฉันเอาไว้

             ความคิด คือ เจ้าของชีวิตเรา  คนที่คิดว่าตัวเองบกพร่องย่อมเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง  คนที่เชื่อว่าฟ้าลิขิตชีวิตย่อมไม่ดิ้นรนต่อสู้   คนที่คิดเยอะกับคิดมาก อาจใช้พลังงานในการคิดเท่ากัน  แค่คนที่คิดมากมักขาดระเบียบในความคิด  คนที่คิดเยอะคือมีแบบแผนที่ใช้ในการคิดอย่างมีระบบ  ดังนั้นการคิดจึงต้องมีการจัดวางทีลงตัว  มิฉะนั้นแล้วการใช้ความคิดอาจไม่ใช่การบริหารสมอง  หากแต่เป็นการทำลายระบบความคิดของสมองให้สับสนยุ่งเหยิง


                  สมองเป็นกลไกที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน  การจัดระเบียบความคิดน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการใช้สมองในการขบคิดที่สำคัญ  ลำดับขั้นตอนการคิดจากเล็กไปใหญ่หรือจากใหญ่ไปเล็ก  ในเนื้อหาเดียวกันก็มีวิธีคิดที่ต่างกัน  เมื่อเริ่มคิด จินตนาการ กับ เหตุผล ก็เริ่มเดินทาง  การคิดริเริ่มคือการเดินทางไปข้างหน้า  การเดินทางที่จะนำพาก้าวที่กล้าหาญของเราออกมา  เผชิญหน้ากับโลก  เผชิญหน้ากับปัญหา  ที่รอให้เราใช้ความคิดแก้ไขต่อไปอีกไม่รู้จบ


                  

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

พบปะ หนึ่งในวิถีชีวิตของสัตว์โลก

พบปะ

            ไม่มีอภิมหาเศรษฐีใดที่ร่ำรวยขึ้นโดยลำพัง  แม้ว่าท่านเหล่านั้จะเกิดมาบนกองเงินกองทอง  แต่ทว่าได้ถือกำเนิดมาเพียงผู้เดียวบนโลก  ทรัพย์สินเงินทองนั้นก็คงไม่มีมูลค่ามากไปกว่ากองขยะที่เปล่าประโยชน์  ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นราคาค่างวดกับใคร  เพื่อสิ่งใด  แล้วคำว่ามั่งคั่งที่มีก็คงจะไร้ความหมาย

            จงระลึกไว้เสอมว่า  สังคมควรพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน  และเราก็จะมีความมั่งคั่งอยู่ภายใน  การพบปะคบหากับผู้คนก็จะทำให้เราเป็นสุข เราร่ำรวยด้วยมิตรภาพและความเป็นผู้มั่นคงทางจิตใจ เพื่อนแท้จะแวะเวียนมาเยี่ยมเราอยู่เสมอ  และไม่เคยทอดทิ้งกันเลย  แม้เราจะสูญเสียทุกอย่าง

ความหวัง และ ความฝัน คู่รักที่ไม่มีวันพรากจากกัน

ความหวัง

              ความฝัน  กับ  ความหวัง  เหมือนคู่สมรสที่ต้องร่วมหอลงโรงกัน  ชีวิตถึงจะครบรสชาติ  หากฝันแล้วไม่หวังก็คงต้องเลิกร้างกัยความพยายามต่อสู้สู่ความฝัน  หากหวังโดยไม่ฝันก็คงไร้ซึ่งจุดหมายปลายทาง  เรามาจัดพิธีสมรสให้ระหว่าง  ความฝันและความหวังกันเถิด  อวยพรให้ทั้งคู่สมสู่กันจนลมหายใจสุดท้าย


         เราคงได้เห็นทายาทสืบสกุลของบ่าวสาวทั้งสอง  ทายาทของความฝันและความหวัง  จะเจริญเติบโตเป็นบุคคลพิเศษ  ผู้พบพรสวรรค์ในการดำเนินชีวิต  ด้วนดำรงอยู่โดยมีความมุ่งหวังพลังใจ

โลกแห่งความ ฝัน มันสุขจริงหรือ

ฝัน

           ความฝันไม่ใช่ความว่างเปล่า  ความฝันมีพื้นฐานของความจริงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  แม้ความจริงของการหลับตาลงยังมีความฝันแทรกแซงการหลับใหล  จึงไม่น่าแปลกที่ตื่นขึ้นมาจะยังคงฝันถึงคืนวันที่ยังเดินทางมาไม่ถึง

            ปัญหามีอยู่ก็สำหรับคนที่ไม่รู้จักจะจัดการกับความฝันนั้น  อย่างไรก็ดี  เมื่อฝันแล้วก็จงฝันต่อไปเพื่อให้ภาพฝันแจ่มชัดยิ่งขึ้น  ขั้นต่อไปก็คือต้องเชื่อมโยงตัวเราเข้าไปผูกพันกับความฝัน  คลี่ปมที่ความฝันผูกไว้ให้เรารับใช้  จับความฝันให้เป็นรูปทรงที่สามารถมองเห็นได้ในหลายมิติ  เพื่อต่อไปนี้เราจะเห็นความเป็นไปได้ของความฝันโดยรอบ  และได้เห็นจุดบกพร่องบางประการ  เพื่อที่เราควรจะได้ใช้ความจริงของเหตุผลเข้าไปดำเนินการปรับปรุง  จนกว่าความฝันจะบรรลุผล  คนช่างฝันจะไม่ทอดทิ้งให้ความฝัน  เป็นเหมือนคู่หมั้นที่ถูกลาร้างห่างหาอยู่เดียวดายตามลำพัง

           คนที่รู้จักใช้ความฝันเป็นเครื่องมือในการก้าวเดินต่อไป  จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีแต่ความสุขที่ยืนยาว  แต่ถ้าคนที่หลงอยู่กับความฝันมากจนเกินไป ชีวิตจะไร้หลักยึดเหนี่ยว  ไม่สามารถยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงได้ และสุดท้ายต้องจมอยู่กับโลกของความฝันตลอดไป

ความรักคือยาพิษ จริงหรือ???

รัก



           ความรักยังคงครองโลกโดยมีดรรชนีวัดค่าง่ายๆ ที่มาจากหนังรัก เพลงรัก ละครรัก นิยายรัก ยังครองอันดับยอดนิยม


           เมื่อความรักครองโลก แล้วเหตุใดเล่าจึงยังอยากมีการคดโกง เข่นฆ่ากันอยู่ทุกวัน หรือเป็นเพราะว่าความรักอันละเอียดอ่อนนั้น สัมผัสกันได้ยากเย็นเหลือเกิน หรือเพราะว่าความรู้สึกนึกคิด ถูกความหยาบกระด้างบดบังมิดชิดและความหลง โลภ โกรธ เกลียด ที่เรามักมอบความไว้เนื้อเชื่อใจจนลืมดูเนื้อหาภายใน และเข้าใจว่าที่กระทำไปเพื่อความรัก หรือการลืมใส่ใจความหมายของความรักที่เรามีอยู่


           โปรดรักตัวตนของเราให้มากๆ รักให้พอเพียงเพื่อจะได้รักผู้อื่น ยื่นดอกไม้จากช่อแห่งดวงใจ ให้ความรักได้ประจักษ์แด่โลกของเรา.

              นอกจากการรู้จักรักตนเองแล้ว เราต้องรู้จักรักคนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต คนเราถ้ารักเพียงแต่ตัวเอง ความเห็นแก่ตัวก็จะเข้าครอบงำ  ลืมรักสิ่งรอบข้าง  และนอกจากสิ่งรอบข้างแล้ว เรื่องสำคัญของความรักคือ การรู้จักแบ่งปันความรัก ให้กลายเป็นความสุขทั้งกับตนเองและผู้อื่นด้วย


การต่อสู้ ที่ทุกชีวิตต้องเจอ

สู้



          ชีวิตคือการต่อสู้- -เคยได้ยินมาตั้งนานแล้ว ก็คงจะเป็นจริงยิ่งขึ้นถ้าการต่อสู้ที่ว่า คือการต่อสู้กับตนเอง ยามเลือดขึ้นหน้าบางคนอาจหมายถึงการต่อสู้กับอริศัตรู โดยหารู้ไม่ว่าศัตรูตัวฉกาจ ก็คือความโกรธของเรานั่นเอง ยามโลภอยากได้ใคร่จะมี ไม่ใช่การต่อสู้แย่งชิง แต่หมายถึงการต่อสู้กับความเกียจคร้าน หรือต่อสู้กับความทะเยอทะยานอยาก


            มนุษยชาติต่อสู้กันเองมาตลอดจวบจนปัจจุบัน ชัยชนะของการต่อสู้ก็ไม่เคยพบเจอสักครั้ง ก็เพราะแพ้ใจตนเอง ชนะใจตนเองให้ได้เสียก่อนในเบื้องแรก จะว่าไปแล้ว- -ชัยชนะ อยู่ในกำมือของเราเองหรือนี่

         ดังนั้น  คำที่ว่า แพ้ใจตนเอง  ทำให้เราต้องต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้ง  สู้กี่ครั้งผลตอบแทนที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม หลายคนสู้จนหมดแรงที่จะหยัดยืนได้อีกต่อไป  ความสุขจากการต่อสู้ไม่ใช่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว  แต่ชัยชนะที่แท้จริงคือการล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ ด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างสง่างาม

คุณยังจำคำนี้ได้ไหม คำว่า น้ำใจ

น้ำใจ

            ธรรมชาติอันแร้นแค้นก็ไม่โหดร้ายเทียบเท่ากับความแห้งแล้งแห่งน้ำจิตน้ำใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมทุกวันนี้น้ำใจมีราคาค่างวดที่ถูกตีตราเป็นรูปแบบการให้บริการ มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เราจะหวาดระแวงน้ำใจไมตรีที่ปรารถนาดีมีมอบแก่กัน คนที่มอบน้ำใจแต่ถูกปฏิเสธก็ควรได้รับคำขอบคุณจากสังคม คนที่ปฏิเสธน้ำใจก็ควรได้รับคำให้อภัยจากสังคม ไม่มีใครผิดมหันต์ ถูกมหันต์ ในโลกของน้ำจิตน้ำใจ

             รอยยิ้มก็เป็นน้ำใจแล้ว น้ำตาก็เป็นน้ำใจของชีวิตที่ขื่นขม เสียงหัวเราะก็เป็นน้ำใจของความเริงร่า น้ำใจของราชาหรือยาจกก็งดงามซาบซึ้งพอกัน วิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์เรา อาจอยู่ที่ความมีน้ำใจก็เป็นได้.

            น้ำใจ  เป็นสิ่งที่คนในสังคมตอนนี้เริ่มลืมเลือนมันไป ทำให้สังคมขาดความสุข  เมื่อใดที่น้ำใจเริ่มหายไปจากกลุ่มคน  สังคมที่แสนดี  ก็จะเปลี่ยนเป็นสังคมอันโหดร้าย  ปัญหาต่างๆก็จะตามมา  ดังนั้น วันนี้คุณควรถามตัวเองว่า  คุณเข้าใจคำว่าน้ำใจ  และทำมันมากน้อยแค่ไหน

ความสุข ที่ชื่อว่า ร้องเพลง

ร้องเพลง



           ไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนบอกว่าตนเองร้องเพลงไม่เป็น ทั้งที่เมื่อครั้งแรกเริ่มลืมตาดูโลก เขาก็ได้ร้องเพลงออกมาเสียงดังลั่น


              การร้องเพลงเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่มีศิลปะตอนแรกเกิดหากทารกเข้าใจความหมายของถ้อยคำแล้ว เด็กน้อยอาจร้องเพลงเป็นภาษาสละสลวยและสื่อสารกับมารดาอย่างเข้าอกเข้าใจ


             บทเพลงเป็นศิลปะแห่งเสียงที่ผู้คนยังคงใช้กล่อมเกลาชีวิต และคงเป็นเช่นนี้ไปอีกนานตราบสิ้นอายุขัยมนุษย์ การขับร้องเพลงเป็นการนำเรื่องราวภายในออกมาบอกเล่า เนื่องจากมนุษย์ต้องการที่พักพิงและสิ่งยึดเหนี่ยว


            บทเพลงเป็นส่วนหนึ่งของทุกศาสนา ในรูปแบบของบทสวดมนต์ เสียงขับขานที่ต้องการประสานกัน เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผองชน บันไดเสียงพาดขึงระหว่างศรัทธากับศาสนา ร้องเพลงกันเถอะหากทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ปลดปล่อย- -ปลอดโปร่ง.

            สุดท้ายสิ่งที่ตามมาหลังจากการร้องเพลง นั้นคือ ความสุข  เหมือนดังที่มีคำกลอนกล่าวไว้ว่า
ชนใดไม่มีดนตรีกาล  ในสันดาลเป็นคนชอบกลนัก
เพราะเราทุกคนมีดนตรีในหัวใจ  ขับกล่อมให้เรามีความสุขนั่นเอง

คิดอย่างมีความสุขกับการฟังสรรพเสียง

ฟังสรรพเสียง



             ความเงียบอาจไพเราะที่สุดสำหรับเราตอนนี้ ความเงียบอาจเป็นเสียงที่เราต้องการรับฟังมากที่สุดตอนนี้ เสียงที่ว่างเปล่าที่สุดอาจเต็มไปด้วยความหมาย ให้เราขบคิดมากที่สุดในขณะนี้ สรรพเสียงใดๆ จะเปิดโอกาสให้เสียงอื่นมากที่สุดเท่ากับเสียงของความเงียบ


           แม้บทเพลงจากคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งประพันธ์สรรพเสียงที่ไพเราะที่สุด แต่เขาก็ต้องขอบคุณความเงียบผู้เปิดโอกาส ผู้ให้โอกาสย่อมยิ่งใหญ่กว่า. . .


           การใช้ความเงียบทำความเข้าใจ กับบุคคลที่กำลังต้องการการรับฟัง เป็นการมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ แด่คนที่เรารักและรักเรา.

                    สุดท้ายคนที่รู้กจักใช้ความเงียบ  รู้จักหยุดฟังความเงียบ  จะทำให้บุคคลนั้นสามารถมีความสุขและสามารถหาโอกาสหรือแสงสว่างที่หลายๆคนมองไม่เห็น


ความจริงของการหัวเราะกับร้องไห้

การหัวเราะกับร้องไห้คิดยังไงให้เป็นบวก

         โลกเต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน หากแต่ไม่มีความซับซ้อนใด เทียมเท่าหัวจิตหัวใจของเราเอง! เราจับเท็จผู้อื่นได้ยากง่ายต่างกัน รวมทั้งในแต่ละจังหวะชีวิตเราก็จับเท็จตนเองได้ยากง่ายต่างกัน บางทีบางครั้งเรากลบเกลื่อนความจริงจากภายในของเราด้วยเสียงหัวเราะ โดยหารู้ไม่ว่าความเจ็บปวดอันสุดแสนนั้น ธรรมชาติแห่งชีวิตได้มอบของขวัญล้ำค่ายิ่ง ให้กับเราไว้แล้ว



            หยาดมณีอันมีค่าใดเล่าจะช่วยบรรเทาเบาบางโศกสลดให้กับดวงใจเราได้ ถ้าน้ำตามีค่าเพียงพอแก่การตอบแทนความแสนสาหัสของชีวิต ก็อย่าได้ปิดกั้นหยาดมณีแห่งชีวิตนั้น ด้วยการยิ้มหรือหัวเราะเลย


            ร้องไห้ไปกับความเป็นจริงที่ปะทุอยู่ภายใน เผื่อว่าเราจะได้รับการชำระล้างความหมองหม่น ด้วยหยาดน้ำใสที่ใครๆก็รังเกียจว่า เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ช่วงชีวิตหนึ่งอยากจะเข้มแข็งกันทุกวี่วันเชียวหรือ.


             แล้ววันหนึ่งหลังจากผ่านพ้นมันไปได้  เราจะพบกับความสุขที่แท้จริง  รวมถึงเราจะสามารถหัวเราะได้อย่างเต็มที่และเต็มใจ  จงคิดบวกเข้าไว้ไม่ว่าจะเวลาหัวเราะหรือร้องไห้ก็ตาม


แนะนำบล้อก

Think  Happiness

การคิดอย่างมีความสุขไม่ใช่เรื่องยากเลยนะคะ

ถ้าเรารู้จักการมองสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ 

แล้วที่สำคัญ การมองสิ่งต่างๆ

เราต้องมองด้วยความคิดที่มีความสุข

นั่นคือ มองอะไรให้เป็นบวกเข้าไว้

รู้จักกระบวนการคิดอย่างมีความสุข

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขอย่างยืนยาว

มีความสุขเป็นเพื่อนคนสำคัญ

และที่สำคัญ.....

คนรอบข้างของเราก็จะพลอยมีความสุขไปด้วยนั่นเอง