วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

คุณยังจำคำนี้ได้ไหม คำว่า น้ำใจ

น้ำใจ

            ธรรมชาติอันแร้นแค้นก็ไม่โหดร้ายเทียบเท่ากับความแห้งแล้งแห่งน้ำจิตน้ำใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมทุกวันนี้น้ำใจมีราคาค่างวดที่ถูกตีตราเป็นรูปแบบการให้บริการ มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เราจะหวาดระแวงน้ำใจไมตรีที่ปรารถนาดีมีมอบแก่กัน คนที่มอบน้ำใจแต่ถูกปฏิเสธก็ควรได้รับคำขอบคุณจากสังคม คนที่ปฏิเสธน้ำใจก็ควรได้รับคำให้อภัยจากสังคม ไม่มีใครผิดมหันต์ ถูกมหันต์ ในโลกของน้ำจิตน้ำใจ

             รอยยิ้มก็เป็นน้ำใจแล้ว น้ำตาก็เป็นน้ำใจของชีวิตที่ขื่นขม เสียงหัวเราะก็เป็นน้ำใจของความเริงร่า น้ำใจของราชาหรือยาจกก็งดงามซาบซึ้งพอกัน วิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์เรา อาจอยู่ที่ความมีน้ำใจก็เป็นได้.

            น้ำใจ  เป็นสิ่งที่คนในสังคมตอนนี้เริ่มลืมเลือนมันไป ทำให้สังคมขาดความสุข  เมื่อใดที่น้ำใจเริ่มหายไปจากกลุ่มคน  สังคมที่แสนดี  ก็จะเปลี่ยนเป็นสังคมอันโหดร้าย  ปัญหาต่างๆก็จะตามมา  ดังนั้น วันนี้คุณควรถามตัวเองว่า  คุณเข้าใจคำว่าน้ำใจ  และทำมันมากน้อยแค่ไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น